ปัญหาที่คนมีบ้านหลาย ๆ คนกังวลนั่นก็คือเรื่องของเชื้อรา ที่เกิดขึ้นตามบริเวณที่มีความอับชื้น หรือเปียกอยู่ตลอดเวลาอย่างในห้องน้ำ ลานซักล้าง เป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวของหลาย ๆ คน เพราะกลายเป็นคราบสกปรกที่อาจจะฝังลึกจนกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อรา และทำลายพื้นผิวบริเวณนั้น ๆ หรือทำให้ยาแนวเกิดเสื่อมสภาพขึ้นมาได้ การกำจัดเชื้อรา จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเชื้อราอาจส่งผลต่อสุขภาพของคนในบ้านได้ จึงต้องทำความสะอาดและกำจัดเชื้อราเหล่านี้ให้หมดไป ซึ่งในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับการทำความสะอาด อุปกรณ์ในการทำความสะอาด แปรงที่ใช้ทำความสะอาดคราบสกปรกที่เหมาะสม รวมถึงการป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราขึ้นได้ง่าย ๆ
การกำจัดเชื้อราตามจุดต่าง ๆ ภายในบ้านให้อยู่หมัด
เชื้อราภายในบ้านเกิดขึ้นได้ในหลาย ๆ จุด ไม่ใช่เพียงแค่ในห้องน้ำเท่านั้น โดยอาจเกิดขึ้นได้ทั้งตามร่องยาแนว พื้นปูน หรือผนังบ้าน ซึ่งต้องใช้วิธีการกำจัดเชื้อราให้เหมาะสมกับพื้นผิว ทั้งการใช้น้ำยาในการกำจัดคราบ แปรงสำหรับขัด และอุปกรณ์อื่น ๆ ดังนี้
- เชื้อราตามร่องยาแนวในห้องน้ำ
เชื้อราในห้องน้ำมักจะเกิดขึ้นตามร่องยาแนวของกระเบื้องทั้งบนพื้นและผนัง ซึ่งทำให้ห้องน้ำนั้นดูเก่า ปล่อยไว้นาน ๆ ก็อาจทำให้เกิดคราบฝังลึก และทำให้เกิดการสึกกร่อนได้ โดยเชื้อราเกิดขึ้นเพราะห้องน้ำมักจะเป็นพื้นที่ที่เปียกอยู่เสมอ อีกทั้งยังเจอทั้งคราบจากสบู่ ยาสระผม รวมทั้งห้องน้ำยังเป็นส่วนที่ไม่มีแดดส่องเข้ามา อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เพราะหลาย ๆ บ้านอาจไม่ได้ติดตั้งพัดลมระบายอากาศ ซึ่งวิธีการทำความสะอาดในขั้นต้นคือการล้างห้องน้ำเป็นประจำ โดยใช้น้ำยาล้างห้องน้ำทั่ว ๆ ไปร่วมกับการใช้แปรงขัดห้องน้ำได้เลย - เชื้อราและตะไคร่น้ำบนพื้นปูน
บริเวณนอกบ้าน หรือผนังบ้านภายนอก นอกจากเชื้อราสีดำ ๆ แล้ว ยังพบตะไคร่สีเขียวที่เกิดขึ้นอีกด้วย สาเหตุหลัก ๆ เกิดจากบริเวณนั้นมีน้ำขังสะสม ยิ่งพื้นปูนที่มีความขรุขระก็อาจทำให้พื้นผิวเหล่านั้นกักเก็บความชื้นเอาไว้ได้ ซึ่งหากอยู่ในที่ร่มไม่โดนแสงแดดก็อาจทำให้เกิดเชื้อราสีดำ แต่เมื่อเจอแสงแดดก็อาจทำให้ตะไคร่นั้นเติบโตได้ดี ซึ่งนอกจากความสกปรก ดูไม่สวยงามแล้ว ก็ยังทำให้พื้นบริเวณนั้นเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว และทำให้เกิดอันตรายจากการลื่นคราบเชื้อราและตะไคร่น้ำได้ การทำความสะอาดอาจใช้ได้ทั้งแปรงขัด และการใช้น้ำแรงดันสูงช่วยชะล้าง - เชื้อราบนผนังห้อง
เชื้อราที่เกิดตามผนังภายในบ้าน ควรรีบกำจัดออกให้สิ้นซาก เพราะอาจจะลุกลาม และส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนในบ้านได้ในระยะยาวเลย ซึ่งเชื้อราตามผนังมักจะเกิดขึ้นตามจุดที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ขอบประตู หน้าต่าง ฝ้าเพดาน ซึ่งเป็นจุดที่มักมีความชื้น หรืออาจมีการรั่วซึมของน้ำออกมา ทำให้เกิดความชื้นสะสมได้ เมื่อปล่อยทิ้งเอาไว้ก็เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อราได้อย่างรวดเร็ว โดยการกำจัดเชื้อราตามผนังควรสำรวจก่อนว่าจุดที่มีเชื้อรานั้นมีความชื้นมาจากไหน เกิดจากอะไร เพราะหากไม่จัดการที่ต้นเหตุ ต่อให้ทำความสะอาดไปแล้วก็อาจเกิดเชื้อราขึ้นซ้ำได้ โดยหากเป็นผนังที่ติดวอลล์เปเปอร์ควรจะลอกวอลล์เปเปอร์ที่มีเชื้อราออกทั้งหมด ทำความสะอาดผนังได้โดยใช้แปรงขนอ่อนขัดเชื้อราบริเวณนั้นออก จากนั้นใช้แอลกอฮอล์เช็ด
เลือกอุปกรณ์และแปรงกำจัดเชื้อราให้เหมาะสมกับพื้นผิวภายในบ้าน
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำความสะอาดคราบสิ่งสกปรก กำจัดเชื้อราภายในบ้านมีอยู่หลากหลาย ทั้งน้ำยาสำหรับการทำความสะอาด ฟองน้ำทำความสะอาด ที่ฉีดน้ำแรงดันสูง และแปรงสำหรับขัด โดยมีแนะนำดังนี้
- แอลกอฮอล์: เป็นหนึ่งน้ำยาที่นิยมใช้กำจัดเชื้อรา โดยเหมาะกับบริเวณที่เชื้อรายังไม่ฝังลึก สามารถใช้ผ้า ฟองน้ำ หรือแปรงขัดเชื้อราบริเวณนั้นออกได้ จากนั้นนำผ้าชุบแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดออกให้หมด นอกจากจะช่วยทำความสะอาด ก็ยังช่วยยับยั้งการเกิดเชื้อราได้ด้วย
- น้ำส้มสายชู: สิ่งที่หาได้ง่าย ๆ ที่บ้าน โดยใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำในอัตราเท่านั้น จากนั้นฉีดไปบริเวณที่มีเชื้อรา แล้วใช้แปรงขัดออก ทำความสะอาดอีกครั้งด้วยน้ำเปล่าได้เลย
- น้ำยาฟอกขาว: เป็นอีกน้ำยาที่นิยมใช้ในการกำจัดเชื้อรา คราบดำต่าง ๆ เพราะน้ำยาฟอกขาวมีส่วนผสมของคลอรีนที่สามารถกำจัดเชื้อราและตะไคร่น้ำได้เป็นอย่างดี โดยผสมน้ำยาฟอกขาวกับน้ำในอัตราส่วน 1:10 ใช้ฉีดพ่นบริเวณที่มีเชื้อรา จากนั้นใช้แปรงขัดออก โดยการใช้น้ำยาฟอกขาวควรใช้อย่างระมัดระวัง เพราะอาจเกิดการระคายเคืองผิวหนังได้
- น้ำยาสำหรับกำจัดเชื้อรา: สำหรับใครที่ต้องการความรวดเร็ว และความสะดวก การใช้น้ำยาสำหรับกำจัดเชื้อราและตะไคร่น้ำโดยเฉพาะก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีน้ำยาสำหรับกำจัดเชื้อราอยู่ในท้องตลาดมากมาย เลือกใช้งานได้ตามความต้องการ และอย่าลืมดูวิธีการใช้ให้ถูกต้อง เพราะอาจเกิดอันตรายได้ ควรมีการสวมถุงมือ สวมหน้ากากขณะทำความสะอาด
- ฟองน้ำทำความสะอาด: ฟองน้ำเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่เช็ดทำความสะอาดได้หลายพื้นผิว โดยสามารถใช้ฟองน้ำเช็ดทำความสะอาดบริเวณผนังในบ้าน หรือผนังห้องน้ำได้ ซึ่งฟองน้ำสามารถช่วยซับน้ำให้แห้งหลังจากทำความสะอาดได้ด้วย
- แปรงขัด: แปรงขัดสำหรับทำความสะอาดมืออยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ ทั้งแบบขนอ่อน ขนแข็ง ทำจากไนลอน พลาสติก หรือทองเหลือง รวมทั้งมีแบบด้ามจับสั้น ด้ามจับยาว โดยสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับพื้นผิวได้ สำหรับการใช้กับพื้นกระเบื้อง สามารถใช้เป็นแปรงขนแข็งที่ทำจากพลาสติกหรือไนลอนได้ ส่วนพื้นปูน สามารถใช้แปรงขนแข็งทำจากไนลอน หรือแปรงทองเหลืองก็ได้ สำหรับผนังบ้านควรใช้แปรงที่เป็นพลาสติกขนอ่อน หรือหากมีแปรงขนแข็งควรจะขัดแบบเบามือป้องกันการหลุดล่อน
- ที่ฉีดน้ำแรงดันสูง: เหมาะสำหรับการทำความสะอาดบนพื้นปูน โดยเฉพาะที่เป็นบริเวณกว้าง เพราะไม่ต้องเสียแรงในการขัดมาก ทำได้อย่างรวดเร็ว และไม่ทำให้พื้นสึกกร่อนจากการขัด
5 วิธีป้องกันเชื้อรา กำจัดเชื้อราภายในบ้าน
เพื่อไม่ให้เกิดเชื้อราในบ้านของคุณ และไม่ให้กลับมาเกิดซ้ำหลังจากได้กำจัดเชื้อราไปแล้ว ควรมีการทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ และควบคุมความชื้น ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการเกิดเชื้อรา โดยมีวิธีการป้องกันเชื้อราภายในบ้านดังนี้
- จัดการความชื้น: ควรมีการระบายอากาศในพื้นที่ชื้น โดยอาจเช็ดทำความสะอาดให้แห้งหลังจากใช้งานบริเวณนั้น ๆ เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ ใช้พัดลมช่วยหมุนเวียน รวมทั้งอาจทำการติดตั้งพัดลมดูดความชื้น ระบายอากาศในห้องน้ำเพิ่ม
- ดูแลพื้นที่เสี่ยง: พื้นที่ที่มีความชื้นภายในบ้านอย่างห้องน้ำ ควรมีการเช็ดทำความสะอาดให้แห้ง หากแยกโซนเปียกและโซนแห้งได้ ก็จะทำให้ง่ายต่อการรักษาความสะอาดมากขึ้น ส่วนห้องอื่น ๆ อย่างห้องครัว ควรมีการทำความสะอาดตู้เย็นอยู่เสมอ ส่วนห้องนอนก็ควรมีการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ เครื่องนอนต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ
- บำรุงรักษาบ้าน: ควรมีการตรวจสอบ ซ่อมแซมบ้านอยู่เป็นประจำ เช่น คอยตรวจดูท่อต่าง ๆ ว่ามีการรั่วซึมของน้ำหรือไม่ ตรวจสอบหลังคา ขอบหน้าต่าง โดยเฉพาะเมื่อฝนตกว่ามีน้ำรั่วซึมเข้ามาภายในบ้านตรงจุดไหนได้บ้าง รวมทั้งซ่อมแซมร่องยาแนวรอยต่อกระเบื้อง
- ทำความสะอาดเป็นประจำ: การทำความสะอาดพื้นที่ต่าง ๆ ภายในบ้านอยู่เป็นประจำ รวมทั้งทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ สิ่งของภายในบ้าน เป็นวิธีที่ช่วยลดโอกาสเกิดเชื้อราได้ง่ายและรวดเร็วมากที่สุด เพราะสปอร์ของเชื้อรานั้นลอยอยู่ในอากาศรอบตัวเรา หากมีการทำความสะอาดก็ช่วยให้ไม่มีการสะสมจนเกิดเชื้อราขึ้นได้
- จัดการสิ่งของภายในบ้าน: การเก็บของในบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่วางของชิดผนัง ไม่เก็บของชื้นไว้ในตู้ และจัดการทิ้งของที่ไม่ได้ใช้งาน และเกิดเชื้อราทิ้งทันที ก็ช่วยลดโอกาสการเกิดเชื้อราได้ รวมทั้งการใช้สารดูดความชื้นในจุดอับชื้นภายในบ้าน ตู้เสื้อผ้า ก็เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความชื้นและปัญหาเชื้อราตามมา
สรุป
เชื้อราถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้บ้านดูเก่า ทรุดโทรม ไม่น่ามอง ก็ยังส่งผลต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้ในระยะยาวได้ หากเกิดเชื้อราขึ้นภายในบ้าน ควรรีบกำจัดเชื้อราโดยด่วน และเมื่อกำจัดแล้วก็ควรมีการทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภายในบ้านของคุณอย่างห้องน้ำ โดยควรมีการเช็ดให้แห้งหลังใช้งาน ขัดถูทั้งพื้นและผนังเป็นประจำ เพื่อให้บ้านเป็นสถานที่ที่น่าอยู่ และปลอดภัยสำหรับทุกคน
